Klaus

รีวิวหนังอนิเมชั่น เรื่อง Klaus (2019) มหัศจรรย์ตำนานคริสต์มาส

หนังแอนิเมชั่นจากประเทศสเปน บอกเล่าเรื่องราวของมิตรภาพต่างวัยของคน 2 คน ที่ได้มาพบเจอกันโดยบังเอิญ ท่ามกลางความเปล่าเปลี่ยว ซึ่งชีวิตการผจญภัยของทั้งคู่ ได้กลายเป็นเรื่องเล่าซานต้าในแบบที่ผู้ชมสามารถจับต้องได้จริง

เรื่องย่อ

เรื่องราวเริ่มต้นที่ ‘Jesper’ ชายวัยรุ่นเขาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลมหาเศรษฐี ซึ่งทำธุรกิจทางด้านไปรษณีย์มาเป็นเวลาช้านาน เขามีนิสัยแย่ ขี้เกียจ จนผู้เป็นพ่อทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงวางแผนดัดนิสัยของเขาด้วยการส่งไปยังเมืองหิมะ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะอันแสนห่างไกล ด้วยการมอบหน้าที่เป็นบุรุษไปรษณีย์ ผู้เป็นบิดาได้ตั้งเงื่อนไขว่า เขาจะต้องส่งจดหมายให้ครบ 6,000 ฉบับ เป็นระยะเวลา 1 ปี จึงจะได้กลับบ้าน แต่ถ้าทำไม่ได้เขาก็จะโดนตัดออกจากกองมรดกไปตลอดชีวิตด้วยเหตุนี้ ‘Jesper’ จึงต้องไปทำงานแบบไม่เต็มใจ และได้พบกับ ‘Klaus’ ช่างไม้ที่มีชีวิตอันโดดเดี่ยวอยู่นอกเมือง และจากการพบกันของทั้งคู่ จึงได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะนึกฝัน

 Klaus (2019) เหมาะกับเด็กโตและผู้ใหญ่

หนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้ ได้ใส่รายละเอียดอันลึกซึ้งไปถึงปมปัญหาชีวิตของผู้คนในหลายช่วงอายุเข้าไป เพราะฉะนั้นสำหรับเด็กเล็กก็อาจไม่เข้าในส่วนนี้ เพราะมีความจริงจังของชีวิตใส่เข้ามาเยอะมาก อีกทั้งยังมาพร้อมส่วนผสมของแอนิเมชั่นกับชีวิตจริงได้อย่างกลมกลืน ซึ่งการบอกเล่านั้นได้ลงลึกไปถึงปมปัญหาในชีวิตจริงของมนุษย์ ที่อาจไร้ซึ่งความหวังมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งวันหนึ่งก็ได้มีใครสักคนเข้ามาราวกับแสงสว่างพร้อมฉุดเพื่อพาให้เขาได้ก้าวเดินต่อไป

ตัวหนังเรื่องนี้ใช้จุดเริ่มต้นธีมหลัก เกี่ยวกับความ ‘ไร้ค่าและไร้ตัวตน’ ในสังคม ซึ่งจะเห็นได้จากตัวละครเอกอย่าง ‘Jesper’ ที่เป็นชายหนุ่มไม่เอาไหน เห็นแก่ตัว อีกทั้งยังไม่มีอะไรในชีวิตเป็นชิ้นเป็นอัน ต้องผจญกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย จนเมื่อเขาได้พบเจอกับ ‘Klaus’ ชายสูงวัยที่มีร่างกายขนาดใหญ่น่ากลัว ซึ่ง Klaus นี่เองที่กลายมาเป็นจุดเริ่มต้น ในการเป็นตำนานเรื่องเล่าซานต้าผู้มีชีวิตในเรื่องนี้

ฉากจบที่เป็นสัจธรรมของชีวิต

โดยผลงานเรื่องนี้ได้สร้างเรื่องราวมาเป็นอย่างดีแล้ว หากแต่เพิ่มความพิเศษมากขึ้นไปอีกด้วยฉากจบ ซึ่งไปไกลก้าวล้ำกว่าคำว่า Happy Ending ตามแนวทางของอนิเมชั่นทั่วไป โดยผลงานเรื่องนี้เลือกฉากจบอันแสดงให้เห็นถึง สัจธรรมความจริงของชีวิตมนุษย์ ทำให้เห็นความลึกซึ้งที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อหา และเหมาะแก่การนำไปขบคิดต่ออย่างแท้จริง ทำให้ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของมนุษย์หากแต่มีความลึกซึ้งขึ้นไปอีกขั้น มีความเต็มอิ่มมากกว่า เพียงแค่จะถูกมองว่าเป็นภาพยนตร์แห่งจินตนาการ ที่เพียงแค่เรื่องเล่าของซานต้าในอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเป็นหนังอนิเมชั่นที่เกินกว่าคำว่าสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง เต็มอิ่มไปด้วยเรื่องราวอันแสนลึกซึ้งและกินใจ สอดแทรกความตลกได้แบบเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความน่ารักมากมาย อีกทั้งยังมาพร้อมลายเส้นสวยงาม ดูง่าย ช่างเหมาะสมกับเรื่องราวเสียจริงๆ

เรื่องสุดท้ายที่อยากจะพูด เพลงประกอบ Invisible อันแสนไพเราะลึกซึ้ง เต็มไปด้วยความหมายชีวิตของตัวละครในเรื่องได้เป็นอย่างดี และสิ่งที่อยากเตือนคุณผู้อ่านเป็นครั้งสุดท้าย คือ ให้เตรียมผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ด้วย เพราะคุณอาจเสียน้ำตาได้อย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว อีกทั้งยังกลั้นไว้ไม่อยู่อีกด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังหาภาพยนตร์ที่เรียกได้ว่ามีคุณภาพแล้วล่ะก็ Klaus (2019) คือหนึ่งในเรื่องนั้น