avatar-2

avatar 2 ที่สุดของประวัติศาสตร์หนัง

เมื่อกล่าวถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับตำนานตลอดกาล อย่าง “Avatar (2009)” เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเคยรับชมกันมาก่อนแล้ว เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวถือเป็นปรากฏการณ์ของวงการจอเงินเลยทีเดียว ที่สำคัญยังกวาดรายได้มาอย่างถล่มทลายเหนือความคาดหมายอีกด้วย คว้ารายได้ตลอดโปรแกรมฉายกว่า 2.847 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างทั้งหมด 237 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงถือว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์อีกเรื่องของ “เจมส์ คาเมรอน” ที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากเคยสร้างปรากฏการณ์คล้ายๆ กัน ในภาพยนตร์เรื่อง “Titanic” มาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง “Avatar” และ “Titanic” ต่างเป็นตำนานแห่งวงการฮอลลีวูด ซึ่งยากมากที่ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ จะขึ้นมาเทียบชั้นด้วย ในช่วงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจึงมีแฟนหนังจำนวนไม่น้อยเฝ้ารอคอยภาคต่อของ “Avatar” กันอย่างใจจดใจจ่อ เพราะอยากชมเรื่องราว หรือปมต่างๆ ที่ค้างคาเอาไว้ตั้งแต่ภาคแรก

หากใครเป็นแฟนหนังของผู้สร้างชื่อดัง อย่าง “เจมส์ คาเมรอน” มาแต่เดิมอยู่แล้ว คงน่าจะทราบดีว่าเขามีความคิดที่จะสร้างภาคต่อ โดยเตรียมโปรเจ็คไปจนถึงภาค 5 เลยทีเดียว ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทุนสร้างมหาศาล เพราะนอกจากบทจะต้องดีมากๆ แล้ว ยังต้องทุ่มทุนไปกับกราฟิกสุดอลังการงานสร้างอีกด้วย เพื่อให้สมศักดิ์ศรีกับการกลับมาในรอบกว่า 13 ปี ล่าสุดทราบมาว่าภาค 2 ถ่ายทำเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะฉายอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2022 ที่จะถึงนี้ ขณะที่ภาค 3 อยู่ระหว่างดำเนินการสร้าง ซึ่งมีความคืบหน้าไปค่อนข้างไกลแล้ว แถมวางแพลนฉายในอีกไม่ช้าด้วย อย่างไรก็ตามในปัจจุบันแฟนหนังทั่วโลกกำลังเฝ้ารอชม “Avatar 2” พร้อมกับคาดหวังว่ามันจะต้องออกมาดีเลิศสมกับที่รอคอยมาเนิ่นนาน โดยคนส่วนใหญ่คาดหวังอยากเห็นเนื้อเรื่องสุดเข้มข้น การดำเนินเรื่องอันสนุกเพลิดเพลิน รวมถึงคุณภาพกราฟิกที่เหนือกว่าภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ในยุคนี้

ที่สุดของประวัติศาสตร์หนัง

การรอคอยอันยาวนานสิบกว่าปี กำลังจะสิ้นสุดลงแล้วในช่วงปลายปี 2022 นี้ เนื่องจากภาพยนตร์เรื่อง “Avatar 2” หรือ “Avatar: The Way of Water” มีกำหนดวางฉายเรียบร้อยแล้ว โดยมาพร้อมกับชื่อไทยว่า “อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ” ซึ่งทางด้านของ “เจมส์ คาเมรอน” ยังคงทำทุกๆ หน้าที่เหมือนเช่นเดิม ตั้งแต่การเขียนบทภาพยนตร์ กำกับภาพยนตร์ และอำนวยการสร้างด้วยเช่นกัน ที่สำคัญคือมีการคว้าตัว “รัสเซลล์ คาร์เพนเตอร์” มาช่วยงานเกี่ยวกับการกำกับภาพด้วย จึงน่าจะช่วยกันสรรค์สร้างองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างลงตัวมากยิ่งขึ้น สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “Avatar: The Way of Water” มีการทุ่มเงินลงทุนมหาศาลไม่น้อยไปกว่าภาคก่อน ด้วยจำนวนกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีระยะความยาวของตัวภาพยนตร์อยู่ที่ 190 นาที ดังนั้นจึงสามารถเพลิดเพลินได้อย่างเต็มอรรถรสแน่ๆ

“Avatar: The Way of Water” มีนักแสดงนำชื่อดังอยู่หลายต่อหลายรายด้วยกัน ซึ่งแต่ละคนล้วนแล้วแต่มีความสามารถในการแสดงอันเป็นที่ยอมรับทั้งนั้นเลย ยกตัวอย่างเช่น โซอี ซัลดานา , แซม เวิร์ธธิงตัน , ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ , สตีเฟน แลง และ คลิฟ เคอร์ติส เป็นต้น พร้อมด้วยนักแสดงสมทบอีกคับคั่ง โดยภาคนี้จะเป็นเรื่องราวของ “ครอบครัวซัลลี” ซึ่งจำเป็นต้องเผชิญกับภัยคุกคามอันโหดร้ายครั้งใหม่ แถมเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม จึงต้องปกป้องครอบครัวตัวเองจากภัยอันตรายเหล่านี้ แต่พวกเขาจะผ่านพ้นอุปสรรคครั้งใหม่สำเร็จหรือไม่ คงต้องไปติดตามรับชมภายในโรงภาพยนตร์กันด้วยตัวเอง ส่วนตัวเคยรับชมเรื่องดังกล่าวในภาคแรกมาก่อนแล้ว ขอบอกเลยว่ามันลงตัวจริงๆ ทั้งในแง่ของเนื้อเรื่อง หรือกราฟิก ถือเป็นอีกก้าวแห่งวงการภาพยนตร์อย่างแท้จริง จึงมอบคะแนนให้ 10/10 ไปเลย แต่สำหรับภาค 2 ที่กำลังจะออกฉาย ส่วนตัวมีความคาดหวังลึกๆ อยู่เหมือนกัน อยากให้ตัวภาพยนตร์ออกมาสมบูรณ์แบบเหมือนกับในภาคแรก